วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ดาวโป๊เมืองไทยกับสันดานอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์


ผู้หญิงคนไหนเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างเด่น ถือว่าธรรมชาติได้สร้างโอกาส

มอบทุนส่วนตัวในการใช้ชีวิตที่สะดวกสบาบในอนาคต โบราณกล่าวไว้ว่า


นารีมีรูปเป็นทรัพย์

แต่ความสวยเด่น ก็มีด้านลบอันเลวร้าย อาจนำภัยมาถึงตัวได้ง่ายกว่าธรรมดา

ทุนธรรมชาติก็เหมือนเหยื่อปลา ที่รอโดนสังคม ทำลายอย่างไร้เยื่อใย


แนท เกศรินทร์ ชัยเฉลิมพล


นักแสดงหนังแผ่นวีซีดีเรทอาร์ เรทเอ๊กซ์ ตกเป็นข่าว อย่างรู้เนื้อรู้ตัว
จนทำให้คนไทยมี Talk of the town ที่จัดอยู่ในประเภท Hot Issue

ตามหลังข่าวทักษิณ (หลอกคนไทย) ซื้อสโมสรลิเวอร์พูล

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์กับมายาแชลแนล คือสื่อมวลชนที่เปิดประเด็น

เล่นข่าวนี้ก่อนใคร


เรื่องนักแสดงอนาคต (เกือบ) ไกล เคยเล่นหนังเอ็กซ์

มาก่อนเข้าวงการ



ระเบิดข่าวลูกนี้ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อ

แนทกลายเป็นคนเล็ก ๆ ที่ไม่เคยมีใครใส่ใจ จนกลายเป็นคนที่สังคม

รู้จักแค่ข้ามคืน


หนังประเภทนี้ เป็นเรื่องที่เสพกันเฉพาะกลุ่ม แต่ยกเว้นในกรณีนี้

เพราะหลังตกเป็นข่าว หลายคนไม่ว่าหญิงหรือชาย ประกาศตนเสียงดังฟังชัดว่า


อยากดู อย่างไม่ลำบากใจที่จะเอ่ยปากขอก้อปปี้ ไว้สักแผ่น

เพื่อไม่ให้ตกกระแสสังคม

อย่างน้อยการเห็นภาพในวีซีดี ก็เป็นหัวข้อเพื่อการสนทนากลุ่ม

(Group Communication) กับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมสังคมได้ในวันรุ่งขึ้น


คนที่ได้ดูแล้วก็ อิ่มหนำสำราญกับภาพอันโอฬารอลังการของนักแสดง


คนปั๊มซีดีก็อิ่มหนำสำราญกับยอดขายทะลุเป้า โดยไม่ต้องใช้งบโฆษณา


เป็นข้อพิสูจน์ว่า การสื่อสารแบบตัวต่อตัว หรือปากต่อปาก

(Word of Mouth) ยังเป็นการสื่อสารที่ทรงพลังที่สุดทุกยุคสมัย


ตัวนักแสดงเอง หลังจากตั้งหลักได้ตั้งตัวติด ก็เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

เริ่มอิ่มหนำสำราญ กับรายได้จากการโชว์ตัว ให้สัมภาษณ์และถ่ายแบบลงนิตยสาร

จงใจลืมคำพูดบางอย่างที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้า ว่า


ถูกหลอกไปถ่าย



สื่อมวลชนผู้เปิดประเด็นอิ่มข่าวไปก่อนใคร แต่ก็ยังทิ้งเชื้อบางอย่างเพื่อ

รอขายข่าวเมื่อโอกาสเอื้ออำนวย

ตำรวจมุ่งมั่นกวาดล้างจับกุมวีซีดีเรทเอ็กซ์อย่างเมามัน แต่ดูเหมือนยิ่งกวาดล้างเท่าไหร่


แนทแผ่น ๒ และแผ่น ๓


ก็หลบหนีการจับกุมของตำรวจไปตกอยู่ในมือประชาชนอย่างรวดเร็ว


ตำรวจทำประหนึ่งว่าเธอเป็นหญิงไทยคนแรกที่ถ่ายหนังเอ็กซ์ !!!!


ที่จริง เธอเป็นแค่หญิงไทยคนแรก ที่เล่นหนังเอ็กซ์

แล้วถูกตำรวจไทยจับได้ต่างหาก


ทุกฝ่ายกลายเป็นผู้สมประโยชน์พอกัน

ทิ้งร่องรอยความเจ็บปวดให้กับสังคมไทยไว้ข้างหลัง
จะโทษสื่อมวลชนก็ลำบากใจ เพราะหากหยิบทฤษฎี

Normative Theories of Media Performance ซึ่งมีส่วนหนึ่งกล่าวไว้ว่า

สังคมเป็นแบบไหน สื่อมวลชนก็เป็นเช่นนั้น

ก็ในเมื่อสังคมไทย ยังเป็นสังคมที่สนุกสนานกับความอยากรู้อยากเห็น

เรื่องของคนอื่น


หนังสือพิมพ์ไทยรัฐเป็นกรณีศึกษาและยืนยันว่าทฤษฎีนี้เป็นจริง

ยอดขายล้านฉบับต่อวันมิใช่เรื่องได้มาโดยบังเอิญ


เราอยากรู้อยากเห็นกับข่าวฆ่ารายวัน ข่มขืนรายคืน ขูดตะเคียนขอหวย

สร้างคนถูกหวยให้เป็นฮีโร่ขึ้นหน้าหนึ่งทุกครึ่งเดือน


กรณีของแนท อยากให้คนไทยเรียกสติกลับมามองเรื่องนี้ ให้เป็นปัญหาสังคม

มิใช่ปัญหาส่วนบุคคล

มองในแง่ดี สังคมได้ตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสถาบันครอบครัว

ที่พ่อแม่ต้องพยายามปลูกฝังค่านิยม ความเชื่อ ทัศนคติ เรื่องรักนวลสงวนตั

ของคนในครอบครัวให้เป็นวาระของครอบครัว


ความเข้มแข็งและความอบอุ่นละมุนละไมของสถาบันครอบครัว

เป็นเสมือนรากแก้วยึดโครงสร้างความเข้มแข็งของสังคมโดยรวม


มองในแง่ร้ายเธอ อาจเป็นตัวต้นแบบตามทฤษฎีตัวต้นแบบ

(Modeling Theory) กับวัยรุ่นบางกลุ่ม ซึ่งมีโอกาสจะเลียนแบบ

วิธีการดำเนินชีวิต หรือ ยอมรับการฉีกกฏขนบธรรมเนียมไทย

โดยไม่ยี่หระต่อความรู้สึกของใคร

ค่านิยมเรื่องเซ็กส์เพื่อเงินอาจจะลุกลามใหญ่โต จนไร้หนทางแก้ไข

และกลายเป็น อีกเรื่องที่ตกไปอยู่ใน


ลัทธิยอมจำนน


สื่อมวลชน คือผู้เปิดประเด็นที่ไร้ค่าและขาดสาระให้กับประชาชน

ตำรวจไทยเลือกใช้หลักนิติศาสตร์อย่างเข้มข้น จนละเลยหลักมนุษยศาสตร์

ที่มุ่งเน้นความเป็นคน
มุ่งมั่น (เหลือกิน) ที่จะไล่จับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง

โดยขาดความรอบคอบและไตร่ตรองถึงผลกระทบทางสังคม


เธอ ทำให้คนไทยอีกหลายคนย้อนไปนึกถึงความแข็งแกร่งของสถาบันครอบครัว

การแพร่กระจายของวีซีดีนับล้านแผ่น ได้ยืนยันข้อข้อสันนิษฐานที่อยู่ในใจอยู่ตลอดมา


คือ

เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นทุกวันนี้

ทำให้มนุษย์ไร้ความเมตตามากขึ้นทุกที.


ภาพประกอบบทความ http://webboard.mthai.com/upload_images_new/2008-04-22/377305.jpg
























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น